กิจกรรมโยคะสร้างไม้ดอกไม้ประดับ (เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับภูมิทัศน์ เริ่ม ปี พ.ศ. 2543)
ประวัติการฟื้นฟูวัฒนธรรม กับ อรพิณ โยคะ เริ่มต้นปี พ.ศ. 2510 - 2519 1. เริ่มต้นเมื่อ ข้าพเจ้าอายุ 7 ปี พ.ศ. 2510 ความคิดน้อยๆ ของมาลี, น้องคำ, น้องคำหล้า, น้องหล้า, น้องแสงหล้า เป็นนามแฝง ของ อรพิณ ฯ ทั้งนั้น ตามแต่ใจ คุณพี่,คุณน้อง,คุณป้า,คุณอา,คุณแม่,คุณตา คุณยาย, เรียกมา แสงหล้าก็ตอบรับได้ทุกคำ ถ้าหากหู ข้าเจ้าได้ยิน และจะเริ่มเรียงลำดับ เป็นขั้นเป็นตอน ชีวิตการสืบสานวัฒนธรรม ใ นยุคเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรอยธรรม ยังรอยครู เรียนรู้ ตามรอยพระยุคคลบาท ของอรพิณ ฯ ข้าพเจ้า เริ่มรู้เรื่องฟ้อนรำ ครั้งแรก ที่วัดป่าไผ่ หมู่ 4 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นการสืบสานวัฒนธรรม มาหลายยุกต์ หลายสมัย ช่วงนั้นมีความเจริญรุ่งเรื่อง ทางวัฒนธรรมอยู่ 2-3 ปีติดต่อกัน ในส่วนที่จำได้เนืองๆ ว่ามีความชอบ, มีความอยากรู้อยากฟ้อนรำ จนสุดหัวใจ ตามประสา ของเด็กๆ เพราะมีหัวใจเข้าถึง วัฒนธรรม ถึงขนาดร้องไห้ขอให้ พ่ออุ้ยอง คุณตาข้างบ้าน เหลามีดดาบให้ 2 เล่ม เพื่อนำไปฝึกฟ้อนรำดาบ ด้วยตนเอง แต่ก็ไม่มีปัญญาเข้าฝึกฟ้อนดาบกับเขา เพราะไม่มีค่าขึ้นครู จนจบหลักสูตรตั้ง 500 บาท สมัยนั้นเงินทอง หายากมาก 2. ต่อมาปี พ.ศ. 2517 ในช่วงนั้น มีอายุ 11 ปี วัดสันทรายน้อย มีการจ้างครูงิ้ว (ไทยใหญ่) มาสอนการฟ้อนรำ ไทยใหญ่, ฟ้อนนางนก ฟ้อนกลองยาว และฟื้นฟูฟ้อนวัฒนธรรมไทย ที่สืบทอดกันมานาน มีคุณครูฟ้อนเป็นชาวบ้าน มีชื่อว่า ครูพิศ และครูลำดวน พีน้องสองสาวคนงาม เป็นที่รู้จักทุกๆวงการ ในระดับ หมู่บ้าน, ระดับตำบล, ระดับอำเภอและระดับจังหวัดเชียงราย ช่วงนั้น ตอนหัวค่ำหลังรับประทานอาหารเย็นแล้ว จะได้ยินเสียงดนตรีฟ้อน เสียงกลอง ระนาด ดังแข่งขัน ประชนกัน ดังแบบบ้านเมืองสมัยโบราณ สมัย 30 กว่าปีที่ผ่ามานี้เอง วิถีชีวิตบ้านป่าไผ่ หมู่ 4 และบ้านสันทรายน้อย หมู่ 1 ก็เปรียบเสมือน บ้านพี่เมืองน้อง มีอะไรก็ขอ กันแบ่งกันกิน , แบ่งปันกันใช้ แทบจะไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินของประเทศ ปลูกผักปลูกไม้ กินเองเป็นผักปลอดสารพิษ, สมุนไพร มีบ่อปลาเล็กๆอยู่ในบ้าน ที่ติดแม่น้ำ , ลำห้วย มีการเลี้ยง หมู หมา กาไก่ ในแต่ละครัวเรือน ทุ่งนาเป็นสีเขียวขจี ประชาชนมีหน้าตาอิ่มบุญ กิจกรรมฟื้นฟูวัฒนธรรมดังกล่าว ที่สืบทอดกันมา จึงเป็นในระบบ แม่สอนลูก พี่สอนน้อง สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ทางเจ้าอาวาสนอกจากจะสืบทอดทางด้านศาสนาแล้ว ก็ช่วยปกครองชาวบ้าน ให้เกิดการรักใคร่ สามัคคีกัน จนตั้งบทกลอน ชื่อ สมาชิกทุกคนในวัด ในเรื่องกินอาหารแล้วมีพฤติกรรมออกมาต่างกัน ทั้ง 7 คน หลังกินอาหารแล้วจะพักผ่อนตามสบายๆ ประสานงานเรื่องเล่าขานตามตำรา อรพิณ โยคะได้ที่ 081-5947519 " กินแล้วเล่น บ่าพร กินแล้วนอน ปู่ผัด กินแล้วหลับ เณรแก้ว กินแล้วแอ่ว เณรมา กินแล้วไข่ เดชเป็ด กินแล้วสเด็จ ท่านคำ"
ท้ายที่สุด ข้าพเจ้าจึงได้ฝึกท่า ฟ้อนกลองยาวมาสอนสืบทอดที่วัดป่าไผ่ หมู่ 4 แล้วสร้างกระแสการพื้นฟูวัฒนธรรม ฟ้อนเล็บ ฯลฯ มีการเชิญครูฝึกจากวัดสันมะนะ มาฝึกสอน พร้อมช่างฟ้อนเก่าๆในหมู่บ้าน ร่วมสอนสืบทอดกันมา ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2518 สู่ความยั่งยืน คอยติดตามการฟื้นฟูฟ้อน ณ วัดป่าไผ่ สมัยรุ่งเรืองจาก ครูสมพร สง่าวงค์ ต่อไป 17 สิงหาคม 2550
31-01-2009 : 11:48:25 |